สธ.จ่อใช้ กม.อื่นคุมสันทนาการ “กัญชา” ระหว่างรอ พ.ร.บ.ใหม่ ก.เกษตรฯจ่อประกาศพืชกักกัน เตรียมแจก 1 ล้านต้นกล้า มิ.ย.นี้

Exclusive ข่าวกัญชา

สธ.เล็งใช้กฎหมายอื่นคุม “กัญชา” นำไปใช้สันทนาการ ระหว่างรอออก พ.ร.บ. หลังปลดล็อกยาเสพติด ทั้งเหตุรำคาญ พ.ร.บ.การสาธารณสุขในเรื่องการสุบ หรือ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ด้านกรมวิชาการเกษตรเตรียมออกประกาศให้เป็นพืชกักกัน นำเข้าต้องตรวจสอบคุณภาพมาตรฐาน แมลงศัตรูพืช เผยพัฒนาพันธุ์กล้ากว่า 1 ล้านต้น แจกเดือนหน้า เริ่ม 10-12 มิ.ย.นี้ 1 พันต้น พัฒนาสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับแต่ละภูมิประเทศ การปลูกในครัวเรือน การแพทย์ และอุตสาหกรรม

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการใช้ประโยชน์กัญชา กัญชงในครัวเรือนทางการแพทย์และศึกษาวิจัย

 

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า สธ.ออกประกาศปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด มีผลในวันที่ 9 มิ.ย.2565 โดยกัญชามีสารสำคัญทั้งทีเอชซีและซีบีดี หากได้รับอย่างเหมาะสมสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ รักษาโรค และดูแลส่งเสริมสุขภาพในครัวเรือนได้ ซึ่ง สธ.ขับเคลื่อนให้นำไปใช้ในทางที่ถูกต้อง ไม่นำไปใช้ในการสันทนาการ โดยจะออก พ.ร.บ.มากำกับ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่ผ่านมากัญชาติดเรื่องของยาเสพติดทำให้ไม่สามารถพัฒนาสายพันธุ์ได้ เมื่อปลดล็อกแล้วประชาชนเข้าถึงการปลูก สธ.จึงลงนามร่วมกับกรมวิชาการเกษตร เพื่อสนับสนุนการนำไปใช้ประโยชน์ในครัวเรือน ทางการแพทย์ และศึกษาวิจัย โดยกรมวิชาการเกษตรพัฒนาต้นกล้ากัญชากัญชงรวมกัน 1 ล้านต้น ให้มีความแข็งแรง ป้องกันโรคต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยีชีวภัณฑ์นำสิ่งมีชีวิตมาควบคุมสิ่งมีชีวิต ซึ่งดีกว่าการใช้ยาที่นำไปสู่การสะสมของสารพิษ การก่อโรคต่างๆ โดยเฉพาะมะเร็ง ซึ่งจะนำไปให้ประชาชนปลูกในครัวเรือนและใช้ประโยชน์ อาจเป็นเรื่องประกอบอาหาร ใช้รักษาสุขภาพตนเอง

“เมื่อได้สายพันธุ์กัญชาที่ดี ทนทาน น่าจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป การปลูกคงไม่ได้จำกัดแค่ในครัวเรือน เป็นการปลูกในจำนวนที่เหมาะสมดูแลสุขภาพ หรือการเป็นอาหาร กัญชาใช้ในสุขภาพส่วนหนึ่งไม่มากประมาณ 25% ส่วนอื่นก็อาหารเสริมผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ มีมานานแล้ว” นพ.เกียรติภูมิกล่าวและว่า ทั้งนี้ เราให้ความรู้ประกอบ แนะนำวิธีการปรุง นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์สุขภาพจริง ไม่ส่งเสริมในการใช้กัญชาในทางเป็นโทษ เช่น การนำไปใช้ในทางสันทนาการ และหากเกษตรกรทำได้ดีอาจขนายต่อยอดเป็นเศรษฐกิจพื้นบ้านหรืออุตสาหกรรม เพื่อนำผลผลิตส่งต่อไปเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งปลายน้ำมีมากกว่าการเป็นสารสกัดเป็นยา แต่ยังมีทั้งอาหาร เครื่องสำอาง ที่เป็นส่วนหนึ่งกระตุ้นเศรษฐกิจชีวภาพนี้ได้

 

ด้าน นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า เมื่อปลดล็อกกัญชากัญชงออกจากยาเสพติด ก็จะมาอยู่ในกฎหมายของกรมวิชาการเกษตร คือ พ.ร.บ.กักพืช พ.ร.บ.พันธุ์พืช และ พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืช ซึ่งจะดูเรื่องคุณภาพมาตรฐานการผลิตต้นกัญชากัญชง ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการกักพืชเมื่อวันที่ 19 พ.ค.มีมติเห็นชอบให้ทำประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำหนดกัญชากัญชงเป็นพืชกักกัน เพื่อควบคุมดูแลมาตรฐาน แมลงศัตรูพืชที่อาจติดเข้ามา ส่วนเมล็ดพันธุ์กรมฯ จะออกประกาศยกเว้นเรื่องการนำเมล็ดพันธุ์เข้ามา หากนำมาทำพันธุ์และประกอบทางการแพทย์ โดยเตรียมเสนอกระทรวงเกษตรฯ ออกประกาศก่อนวันที่ 9 มิ.ย.นี้ เพื่อรองรับระหว่างรอ พ.ร.บ.กัญชากัญชงที่อยู่ในการพิจารณาของสภา

“พอปลดล็อกสารเสพติดก็อาศัย พ.ร.บ.เหล่านี้ในการควบคุมดูแลคุณภาพมาตรฐานและเมล็ดพันธุ์ที่จะนำเข้าจากต่างประเทศ หากไม่มีกฎหมายในการตรวจสอบรับรอง อาจมีการลักลอบนำเมล็ดเข้ามาที่ด้อยคุณภาพ” นายระพีภัทร์กล่าว

นายระพีภัทร์กล่าวว่า ดังนั้น การส่งเสริมวิจัยพัฒนาสายพันธุ์กัญชาให้เหมาะสมบริบทประเทศไทย กรมวิชาการเกษตรและ สธ.ร่วมทำ MOU เพื่อพัฒนาศึกษาวิจัยต่อยอดสายพันธุ์ที่เหมาะสมในบริบทประเทศโดยเฉพาะการใช้ในครัวเรือน และทางการแพทย์หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ โดยมีการดำเนินการอื่นๆ คือ 1.ศึกษาทดลองวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กัญชากัญชงให้เหมาะสมบริบทประเทศไทย ซึ่งตอนนี้เรามี 10 สายพันธุ์เป้นพันธุ์ไทยทั้งหมด เราส่งเสริมพันธุ์ไทย ปลูกได้เองเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ขยายพันธุ์ต่อได้เองตามที่จดแจ้งไว้ 2.สนับสนุนสมาชิกสหกรณ์การเกษตรและเกษตรกรปลูกกัญชากัญชงเพื่อการแพทย์และครัวเรือน จะเริ่มทำการผลิตกล้าพันธุ์ไม่น้อยกว่า 1 ล้านต้น ให้ประชาชนและเกษตรกรมีโอกาาสเข้าถึงกล้าพันธุ์ที่ดี เป็นประโยชน์และเหมาะสมตามภูมิประเทศของไทย และ 3.การถ่ายทอดเทคโนโลยีและสนับสนุนให้สมาชิกสหกรณ์ปลูกกัญชากัญชงในมาตรฐานการเกษตรที่ดี (GAP) จะสร้างการรับรู้และฝึกอบรมประชาชนและเกษตรกร

 

เมื่อถามถึงการเข้าถึงต้นกล้า 1 ล้านต้น นายระพีภัทร์กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรเตรียมวิธีและแนวทางการขยายเพาะกล้าพันธุ์กัญชากัญชง 1 ล้านต้น โดยใช้แล็บวิจัยและศูนย์ทดลองของกรมวิชาการเกษตร ที่มี 26 ศูนย์ทั่วประเทศ ซึ่งหากการเตรียมการตั้งแต่วันนี้เชื่อว่าจะสามารถทยอยปลูกกล้ากัญชากัญชงและแจกให้เกษตรกรหรือประชาชนได้แน่นอน โดยจะเริ่มแจก 1 พันต้นในงานมหกรรม 360 องศา ปลดล็อกกัญชาประชาชนได้อะไร ในวันที่ 10-12 มิ.ย. 2565 ส่วนแต่ละเดือนจะทยอยแจกกี่แสนต้นอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมภายหลัง ส่วนประชาชนที่จะรับพันธุ์กล้า ก็จะมีการขึ้นทะเบียนผ่านกลไกของจังหวัด อบจ.อบต. ซึ่ง สธ.มีการพัฒนาแอปพลิเคชัน “ปลูกกัญช” ก็จะเป็นการลงทะเบียน และเป็นความร่วมมือต่อไปในการทำฐานข้อมูล ผู้ใช้ผู้ผลิตผู้ปลูกในรูปแบบออนไลน์

ถามต่อว่าหากออก พ.ร.บ.ไม่ทัน จะมีแนวทางควบคุมดูแลอย่างไร นพ.เกียรติภุมิกล่าวว่า สธ.มี พ.ร.บ.หลายฉบับที่สามารถป้องปรามการนำไปใช้ในทางที่ไม่เกิดประโยน์และสันทนาการได้ ซึ่งมีการประชุม 2 ครั้งแต่ยังไม่ได้สรุปว่าจะออกเป็นระเบียบหรือกฎกระทรวงหรือแบบใด ตามฐานอำนาจแต่ละกฎหมาย แต่มีที่จะควบคุมการใช้ในทางไม่เป็นประโยชน์แน่ จนกว่าจะมี พ.ร.บ.ออกมา อย่างอย่างการนำมามวนเสพสูบ ทำให้เกิดกลิ่นควัน ก็ใช้เรื่องเหตุรำคาญ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 หรือเรื่อง พ.ร.บ.ควบคุมผิตภัณฑ์ยาสุบ ซึ่งจะพูดถึงบุหรี่และนิโคติน ก็จะพิจารณาว่าจะมีการขยายเพื่รองรับตรงนี้ได้หรือไม่

แหล่งข่าว
https://www.mgronline.com